วันที่นำเข้าข้อมูล 29 ก.ค. 2564
วันที่ปรับปรุงข้อมูล 30 พ.ย. 2565
“ชื่อนี้มีแต่ของอร่อย” สโลแกนที่บางคนอาจคุ้น ซึ่งเป็นสโลแกนของ S&Pแบรนด์ร้านอาหารไทยและเบเกอรี ที่อยู่คู่คนไทยมากว่า 47ปี รู้ไหมว่า S&P จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยซึ่งมีมูลค่า บริษัทกว่า 4,400 ล้านบาท และบริษัทไม่ได้มีแค่แบรนด์S&Pแต่ยังมีแบรนด์ร้านอาหารอื่นๆ อีก เช่น Maisen Umenohana และ Bluecup
ความเป็นมาของ S&P ร้านอาหารและเบเกอรีแถวหน้าของเมืองไทยเป็นอย่างไร
เมื่อปี พ.ศ. 2516 โดยพี่น้องตระกูลไรวา และตระกูลศิลาอ่อนได้ร่วมลงขันกันคนละ 25,000บาท เพื่อเปิด ร้านขายไอศกรีมของโฟร์โมสต์ในตึกแถวคูหาเดียวเล็กๆ ที่ซอยสุขุมวิท 23 (ซอยประสานมิตร) ภายใต้ชื่อร้านว่า“S&P Ice-Cream Corner”แต่พอดำเนินธุรกิจไปสักพัก พวกเขาเริ่มรู้สึกว่าการขาย ไอศกรีมอย่างเดียวคงไม่สามารถสร้างยอดขายได้เพียงพอ จึงตัดสินใจเพิ่มเมนูอาหารจานเดียว ของว่างต่างๆรวมถึงเบเกอรีเข้าไป เพื่อบริการลูกค้า
ซึ่งปรากฏว่าทางร้านประสบความสำเร็จพอตัว และได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้า จนในซอยพูดถึงกันมาก เนื่องจากในสมัยนั้น ยังไม่ค่อยมีร้านอาหารที่เป็นห้องแอร์ ส่วนใหญ่จะเป็นร้านตามข้างทาง หรือร้านอาหารในโรงแรม ซึ่งมีราคาค่อนข้างสูง
ด้วยคุณภาพของอาหาร รสชาติ และความแปลกใหม่ของรูปแบบร้านทำให้ร้าน S&P มีลูกค้าเข้ามาใช้ บริการอย่างหนาแน่นและด้วยพฤติกรรมของคนไทยที่มีแนวโน้มหันมาทานอาหารนอกบ้านกันมากขึ้น S&P จึงเล็งเห็นโอกาส คือ มองว่าธุรกิจร้านอาหารของตัวเองมีศักยภาพมากพอ เลยตัดสินใจขยายสาขา เพิ่มโดยขยายสาขาไปที่สยามสแควร์ ในปี 2523 และสาขานี้ได้กลายเป็นต้นแบบของร้าน S&P อื่นๆ ในเวลาต่อมา ซึ่งร้านมีการแบ่งสัดส่วนชัดเจนระหว่างโซนอาหารกับเบเกอรี
หลังจากนั้นกิจการของ S&P ก็รุ่งเรืองขึ้นเรื่อยๆ จนสามารถเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้เมื่อปี 2532 และมีการแตกแบรนด์ร้านอาหารใหม่ๆ เพื่อขยายฐานลูกค้าให้มีความหลากหลายมากขึ้น
ปัจจุบัน S&P ได้กลายเป็นอาณาจักรธุรกิจร้านอาหาร ที่มีหลายร้อยสาขาทั่วประเทศโดย ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2562 กลุ่ม S&P มีร้านอาหารที่เปิดให้บริการภายในประเทศ รวม 529 สาขา เช่น
S&P Bakery Shop ร้านเบเกอรีและกาแฟ รวม 356 สาขา
S&P Restaurant & Bakery ร้านอาหารบริการเต็มรูปแบบ รวม 144 สาขา
Maisen ร้านอาหารทงคัตสึ รวม 13 สาขา
BlueCup (Standalone) ร้านกาแฟสด รวม 3 สาขา
Umenohana ร้านอาหารญี่ปุ่น 2 สาขา
Nai Harng ร้านอาหารสไตล์ไทย-จีน 2 สาขา
ส่วนในต่างประเทศมีร้านอาหารเปิดให้บริการอยู่ 17 สาขาใน 5 ประเทศ ได้แก่ อังกฤษ สวิตเซอร์แลนด์ ออสเตรีย จีน และกัมพูชา
แล้วที่ผ่านมา ผลประกอบการของกลุ่ม S&P เป็นอย่างไร
บริษัท เอส แอนด์ พี ซินดิเคท จำกัด (มหาชน)
ปี 2561 มีรายได้ 7,710 ล้านบาท กำไร 400 ล้านบาท
ปี 2562 มีรายได้ 7,389 ล้านบาท กำไร 314 ล้านบาท
สำหรับผลประกอบการ 6 เดือนแรกของปี 2563
บริษัท มีรายได้ 2,448 ล้านบาท ลดลง 30% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนและขาดทุน 77 ล้านบาทในขณะที่ 6 เดือนแรกของปี 2562 มีกำไร 110 ล้านบาทซึ่งผลประกอบการที่ได้รับ ผลกระทบอย่างหนัก มีสาเหตุหลักมาจากสถานการณ์โควิด 19 ที่ทำให้รัฐบาลออกมาตรการต่างๆ และสั่งปิดสถานที่เป็นการชั่วคราวส่งผลให้ S&P ต้องปิดสาขาร้านอาหารชั่วคราว และเปิดจำหน่าย เฉพาะการซื้อกลับบ้านเท่านั้น
ซึ่งก็มีร้านอาหารในเครือของ S&P ก็คือร้าน “VANILLA” ที่ทนพิษบาดแผลของโควิด 19 ไม่ไหวจนต้องจำใจ ประกาศปิดกิจการลงทุกสาขาอย่างถาวรในที่สุด เมื่อเดือน ส.ค. ที่ผ่านมาแต่อย่างไรก็ดี ด้วยการควบคุมโรคระบาดที่มีประสิทธิภาพและสถานการณ์โควิด 19 ในประเทศไทยที่ผ่อนคลายขึ้นมาก จนทำให้ผู้คนกล้ากลับมาใช้ชีวิตได้เกือบปกติทุกอย่างแล้วได้ส่งผลให้กิจการร้านอาหารและยอดขายของ S&P ค่อยๆ ฟื้นตัวกลับมาอย่างรวดเร็ว
ทั้งนี้ สำหรับผู้ถือหุ้นใหญ่ของ บริษัท เอส แอนด์ พี ซินดิเคท จำกัด (มหาชน)เป็นคนของตระกูลศิลาอ่อน ถือหุ้นรวมกันอยู่ 14.3% และตระกูลไรวาถือหุ้นรวมกันอยู่ 26.7% แต่ที่น่าสนใจคือบริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) เจ้าของเชนโรงแรม เช่น อนันตราอวานี และโฟร์ซีซั่นส์ และเจ้าของเชนร้านอาหารมากมายในไทย เช่น เดอะ พิซซ่า คอมปะนี ซิซเล่อร์ บอนชอน เบอร์เกอร์คิง สเวนเซ่นส์ และแดรี่ควีนก็เป็นหนึ่งในถือหุ้นใหญ่ โดยถือหุ้นอยู่ 35.9%
เริ่มแรกบรรดาผู้ก่อตั้ง S&P ตระกูลไรวาและตระกูลศิลาอ่อนตั้งใจจะเปิดร้าน S&P ให้เป็น ธุรกิจครอบครัวเล็กๆ สำหรับพี่ๆ น้องๆ เท่านั้น ไม่ได้หวังให้กลายเป็นเชนร้านอาหารระดับประเทศเหมือน อย่างทุนวันนี้แต่ด้วยความใส่ใจในสิ่งที่ทำ ใส่ใจในลูกค้า และตั้งใจทำสิ่งตรงหน้าให้ดีที่สุด ไม่ว่าผลลัพธ์ จะออกมาเป็นอย่างไรบวกกับเอื้อมมือไปไขว่คว้าทุกโอกาสที่เข้ามาหาอย่างไม่ลังเลซึ่งองค์ประกอบเหล่านี้ ได้กลายเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้พวกเขาสามารถปลุกปั้น S&P จนมีวันนี้ และประสบความสำเร็จเกินกว่า ที่หวังไว้นั่นเอง
รูปภาพประกอบ